Dream place

ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเจ้านายที่คูลขนาดนี้ ให้ตายซิ...

เมื่อวานมีงานเลี้ยงส่งพี่แบงค์เมเนเจอร์ชิดลมพร้อมกับเป็นวันเกิดพี่ปุ๋ยด้วย ที่ร้าน Falabella ทั้งเมเนอเจอร์ทั้งวีเอ็มแต่งตัวกันจัดเต็มมาก ตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่างานจะสนุกมากมายเพราะมีแต่ผู้ใหญ่แต่ใครจะไปรู้ว่า พี่จิ๊บแบรนด์เมเนเจอร์ของเราออกตัวแรงสุด นางทั้งดื่ม ทั้งสูบ ทั้งเต้น แถมขึ้นไปร้องเพลง ขอบอกว่าปลื้มนางมากไม่มีมาดของเจ้านายเลยแต่เมื่อคืนนางสวยมากนะปากแดงเชียว งานนี้ได้สนิดกับพี่ๆวีเอ็มคนอื่นๆมากขึ้น ทั้งพี่เบ็น พี่ป๊อบ พี่อุ้ย โดยเฉพาะพี่กิฟที่เธอเพิ่งอกหักมามาดๆ นางมาเล่าเปิดใจทุกสิ่งอย่างและมันทำให้เราสนิทกันมากขึ้น


พี่เซินลูกพี่ของเราก็ออกไปเต้นไปร้องกับเค้าด้วย เสียดายที่เมื่อคืนไม่ได้คุยกับนางมากมายอะไรแต่นางก็น่ารักในแบบของนางนะ ต้องขอขอบคุณพี่เซินที่ทำให้เราได้มาอยู่ ณ จุดนี้

อีกคนที่ปลื้มมากๆคือพี่เบ็นนางเป็นเกย์ที่น่ารักมากกกกกกก นางไม่อยากให้เราสูบบุหรี่ นางบอกว่าผู้ชายอ่ะหาไม่ยากหรอกแต่ที่ดีๆอ่ะมันหายาก นางบอกว่า พี่อยากมีครอบครัวถ้าแก่ไปหนูไม่มีใครมาอยู่กับพี่ได้นะ ฮ่าๆๆ ตลกดีแต่ก็แอบคิดเหมือนกันนะ


สรุปคือทุกคนน่ารัก เต้นกันลืมตัวเลยทีเดียวรวมถึงตัวเองด้วย รักครอบครัวแมงโก้จังเลย งานส่วนงานนะคะ ฮ่าๆๆๆ

I feel so deep

When you give 100 percent so you will get 100 percent too.

นี่คือสิ่งที่ฉันคิดได้ในเย็นวันนี้.....

หลายเดือนที่ผ่านมาฉันทุ่มเทกับงานที่ฉันรักเป็นอย่างมาก โฟกัสกับมันเพียงอย่างเดียวเพราะรู้สึกว่าโชคดีที่ได้ทำงานที่ชอบแถมได้มีเจ้านายที่น่ารัก หลายคนอาจคิดว่าแค่ทำให้ผ่านไปแต่ละวันแต่สำหรับฉันแล้วแค่ทำอย่างเดียวไม่พอแต่เราจะต้องทำมันให้ดีที่สุด อย่าไปคิดว่าทำไปก็ได้แค่นี้เพราะยิ่งเราทำมากเราก็ได้ได้กลับมามาก ในไม่ช้าอย่างแน่นอน

ชีวิตตอนนี้จึงมีแต่งานกับครอบครัว อาจจะไปสังสรรค์พบปะเพื่อนบ้างแต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อน ชีวิตรักหรอบอกผ่านไปได้เลย ฮ่าๆๆๆ แต่ไม่กี่วันก็คิดได้ว่าชีวิตไม่ควรมีแต่งานอย่างเดียวเพราะวันๆนึงผ่านไปเร็ว บางทีก็เร็วจนเราไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นอยากทำอะไรทำ ทำแล้วต้องทำให้ถึงที่สุดด้วย


ในที่สุดสิ่งที่ฉันคิดและเชื่อตลอดมาก็เป็นสิ่งที่ถูก เพราะฉันได้รับความชื่นชมจากคนรอบข้างและที่ยิ่งทำให้ยิ่งปลื้มมากขึ้นอีกคือเจ้านายจากสเปนค่อนข้างจะพอใจในสิ่งที่ฉันทำ แค่นี้ล่ะคือคำตอบของทุกอย่างที่ฉันเชื่อ


เราคิดบวกเราก็จะดึงดูดสิ่งบวกๆเข้ามาในชีวิต คนที่คิดร้ายๆอิจฉาในความสำเร็จของคนอื่น เผ้ามองแต่ด้านแย่ๆของคนอื่น นินทาว่าร้าย คนประเภทนี้เขาไม่มีความสุขหรอก ลองสังเกตุดูซิว่าจริงไม่จริง :)

Only god forgive

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาป่วยแต่การป่วยครั้งนี้ค่อนข้างที่จะกระทบจิตใจเล็กน้อยเพราะกลัวต้องนอนทรมานอยู่ห้องคนเดียวเลยแบกสังขารไปทำงาน รู้สึกว่าต้องมีใครอยู่ด้วยต้องมีคนดูแลแต่พอกลับมาอาการมันก็ไม่ดีขึ้นเลยตัดสินใจว่าจะลางานแล้วกลับบ้าน ตอนนั้นคิดแต่ว่าอยากกลับไปนอนอยากอยู่ใกล้ครอบครัวเพราะมันรู้สึกอุ่นใจ สภาพจิตใจตอนนั้นรวมถึงตอนนี้ยังแย่อยู่อาจจะเข้าขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้ มันคิดไปต่างๆนานาว่าถ้าเราไม่เหลือใครแล้วจะอยู่ได้มั้ยจะดูแลตัวเองได้หรือเปล่าเพราะแค่ตอนนี้ก็รู้สึกโดดเดี่ยวมากพอแล้ว มันมีประโยคที่ป้าพูดขึ้นมาว่า "ต้องหัดดูแลตัวเองให้ได้เพราะอีกหน่อยก็จะไม่มีใครดูแล" มันเศร้ามากที่ได้ยินประโยคนี้ รู้สึกเสียใจที่ทำตัวไม่ดีกับคนที่บ้านตอนนี้อยากดูแลคนที่บ้านได้อยากหาเงินได้เยอะๆ เลยกลายเป็นคนคิดมาก แต่วันนี้ก็มีเรื่องดีๆที่ได้เจอมะเฟืองซึ่งเป็นเพื่อนมหาลัยไม่คิดเลยว่าเธอจะแต่งงานแล้ว ดูเธอมีความสุขก่อนจากกันมะเฟืองก็เข้ามากอดมันดีใจมากๆที่ได้เจอกัน

ตอนนี้สภาพจิตใจยังไม่ค่อยโอเค กลับรู้สึกไม่อยากไปทำงานไม่อยากทำอีกแล้ว อยากจะทำอย่างอื่นมันพึ่งจะสี่เดือนเองนะทั้งๆเมื่อเดือนที่แล้วยังรู้สึกสนุกกับงานอยู่เลยไม่เข้าใจตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้อยากทำอะไรก็ได้ให้คนที่บ้านมีความสุข ให้เท่าที่เราให้ได้เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่เคียงข้างเราไปอีกนานแค่ไหน.......



ชั้นว่าชั้นจะต้องไปหาจิตแพทย์

I miss you already

จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่าปีกว่าแล้วที่เราได้รู้จัก ช่วงสามสี่เดือนมานี้ความรู้สึกต่างๆค่อยจางหายไปเหลือแต่ความทรงจำที่ดีแต่มาวันนี้อยู่ดีๆก็คิดถึงเธอ อาจเป็นเพราะตอนนี้เราค่อนข้างที่จะไม่ได้เจอใคร ไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นไม่มีเรื่องที่ทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ บอกตามตรงเธอเป็นคนที่มีเสน่ห์มากจริงๆยังหาใครที่ครบเครื่องอย่างเธอไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ขอให้เราเจอกันอีกครั้ง เราจะอธิษฐานทุกวันทุกเวลาขอให้เราได้เจอกันอีกครั้ง อยากรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไร ยั
อยากฟังเธอเล่นดนตรีอยู่นะ :)

The things I like

1. ชอบฟังเพลง
2. ชอบเดินทาง
3. ชอบแต่งตัว
4. ชอบนั่งร้านกาแฟเก๋ๆ
5. ชอบเล่นกีต้าร์
6. ชอบดูงานศิลปะ
7. ชอบ Blogging
8. ชอบอยู่คนเดียว
9. ชอบเดินทาง
10. ชอบสนทนากับคนเจ๋งๆ
11. ชอบตื่นสาย
12. ชอบอ่าน magazine มากกว่านิยาย
13. ชอบดูหนังรักคนเดียว
14. ชอบกินมะม่วงเปรี้ยว
15. ชอบใส่เสื้อเอวลอย
16. ชอบจัดห้อง
17. ชอบจินตนาการ
18. ชอบหัวเราะ
19. ชอบอยู่เฉยๆ
20. ชอบเวลากลางคืน
21. ชอบดนตรีสด
22. ชอบเบียร์
23. ชอบอากาศเย็น
24. ชอบอยู่กับเสื้อผ้า
25. ชอบถ่ายรูป
26. ชอบเครื่องประดับ
27. ชอบร้านเสื้อผ้าตกแต่งสวยๆ
28. ชอบผู้ชายไม่เยอะ

Nice to meet you all

ชีวิตในการทำงานมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะไม่เจอปัญหา ทุกคนต่างรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่มันก็แค่ในนั้น ในเมื่อไม่มีใครปรับเปลี่ยนเพื่อใครต่างคนต่างยืดถือตัวเองเป็นหลักแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรดีชี้น วันนี้ดีใจที่ได้เจอรุ่นพี่ vm ทุกคน อาชีพนี้เป็นอาชีพในฝันนะทำแล้วมีความสุขมากๆ โชคดีที่มีหัวหน้าที่ดีมีรุ่นพี่ที่น่ารัก รู้สึกอบอุ่นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานมั้ยเพราะสาขาที่ทำรายได้มันไม่ค่อยดีไม่รู้ว่าจะปิดตัวเมื่อไหร่ เอาว่ะอย่างน้อยเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ศุกร์นี้จะได้ไปเชียงใหม่แล้ว คนเดียวซะด้วยสู้ๆ ไปให้หายเครียดแล้วกลับมาเริ่มใหม่

Hong Kong Trip

เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมได้มีโอกาศไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนอีกสิบคน!!! ใช่แล้วสิบคน ตอนที่จองตั๋วล่วงหน้ากันก็ไม่คิดว่าจำนวนคนที่ไปจะเยอะขนาดนี้ เราแพลนว่าจะไปที่ที่ทุกคนต้องไป แต่ถ้าใครจะอยากแยกตัวไปที่อื่นก็ตามสบายแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางก็เริ่มสนุกแล้วเราเดินทางมาถึงมาเก๊าตอนหกโมงเย็นและต้องนั่งเรือไปฝั่งฮ่องกงอีกแต่ระหว่างทางที่เราเดินจากสนามบินไปท่าเรือนี่สิ พวกเรา 11 คนเดินลากกระเป๋าเดินทางเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ เสียงกระเป๋าที่ลากก็เสียงดังตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดดังนั้นพวกเราจะต้องรีบทำเวลาเพราะเราหิวกันมากๆ โดยกว่าเราจะนั่งไปถึงฝั่งฮ่องกงด้วยเรือด่วนก็เกือบๆห้าทุ่มแล้ว

เมื่อถึงฝั่งฮ่องกงเราก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองซ่งตรงนี้ขอบอกว่าไม่น่าประทับใจเลย เจ้าหน้าที่หน้าเหวี่ยงไม่มีมรรยาท แถมโยนพาสปอตใส่อีกตอนนั้นคืออารมณ์เสียสุดๆ อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่นั้นแต่สำหรับคนไทยอย่างเราแล้วรับไม่ได้จริงๆ เสร็จจากด่านเราก็มุ่งหน้าสู่รถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งเราซื้อบัตรเหมาในราคา 200 ดอลลา ซึ่งใช้ได้กับทุกการขนส่งของฮ่องกง รถไฟใต้ดินที่นี้เวลาวิ่งจะมีลมพัดเข้ามาทำให้รู้สึกเหมือนนั่งรถบัสเลยซึ่งมันก็แปลกดี เมื่อออกจากรถไฟใต้ดินที่สถานีเกาลูนเราก็ตามหาที่พักซึ่งเป็นคอนโดเปิดเช่า ที่นั้นอารมณ์เหมือนแฟลตดินแดงแถวบ้านเราแต่ดีกว่า ของกินแถวนั้นเพียบไม่ต้องกลัวอดและแน่นอนที่นั้นมี 7-11 โดยของกินก็แตกต่างจากที่ไทยเป็นของกินแบบจีนๆแต่ที่ชอบมากคือเบียร์เพราะถูกกว่าน้ำเปล่า ป้าที่เป็นพนักงานที่ 7-11 ร้านประจำของเรามักจะถอนเงินผิดๆถูกๆซึ่งดูแกก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไร อถมถุงก็ไม่ให้ถ้าจะเอาต้องเสียเงินเพิ่ม

เก็บข้าวเก็บของเสร็จเราก็มุ่งหน้าหาของกินต่อ ซึ่งมื้อแรกของเราได้กินบะหมี่ที่เยอะมากแถมเผ็ดแต่อร่อยดี คุรพี่เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราก็ได้แต่จิ้มๆเมนูเอาซึ่งก็อ่านไม่ออกเพราะเป็นภาษาจีน

วันที่สองเราเดินทางโดยกระเช้าเพื่อไปที่วัดพระใหญ่ ซึ่งกระเช้าที่ว่าสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะสูงมากแต่พอนั่งไปเรื่อยๆขอบอกว่ามันสูงและเสียวมากจริงเพราะเราไม่รู้จุดสิ้นสุดได้แต่ไต่ไปบนความสูงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายเราก็จะเห็นพระใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาซึ่งเราต้องเดินขึ้นไปอีกโดยระหว่างทางก็จะมีร้านและกิจกรรมให้ทำ (ขอบอกว่าคนไทยเยอะมาก อย่าคิดที่จะนินทานะจ๊ะ รู้หมด!!)

ไหว้พระเสร็จเราก็เดินทางไปดิสนีย์แลนต่อ โดยรถไฟขบวนที่แสนจะน่ารักแต่ไปถึงพวกเราไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะต้องเสียค่าเข้าและเวลาของพวกเรามีไม่พอจึงตัดสินใจที่จะกลับห้อง เพื่อพักร่างกายที่แสนจะอ่อนเพลียและเตรียมตัวที่จะไปหาร้านอร่อยๆกินกัน

อาหารเย็นเราจบที่ร้านอาหารจีนในห้างที่ต้องขอบอกว่าอร่อยที่สุดในทริปแล้ว โดยเฉพาะหมูอบที่ต้องสั่งทุกโต๊ะเลยจริงๆ แต่น่าเสียดายที่วันนั้นฝนตกเลยไม่ได้ไปเดินเล่นที่ซิมซาจุย

วันที่สามพวกเราได้ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ติดกับทะเลซึ่งจำไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไร เราเดินทางกันด้วยรถบัสที่บ้านเราเรียกว่ารถทัวส์ มันสะดวกสบายและเป็นบริการที่น่าประทับใจแต่โชคไม่ได้เอาเสียเลยฝนตกลงมาค่อนข้างหนักเลยเป็นอุปสรรคพอสมควรแต่สุดท้ายท้องฟ้าก็กลับมาสดใส ซึ่งหลังจากนี้พวกเราตัดสินใจที่จะแยกย้ายกันไปในที่ที่อยากไป โดยฉันเลือกที่จะไปย่านช็อปปิ้งเพราะว่าไม่อยากเล่นเครื่องเล่น พอไปถึงที่นั้นต้องขอบอกว่าห้างเค้าเยอะมากจริงๆเดินไม่ถูกกันเลยทีเดียว มีแต่ของแบรนด์เนมร้านที่เราพบมากที่สุดคือ sasa เป็นร้านเครื่องสำอางค์ที่มีทุกอย่างให้คุณเลือกสรรค เราเดินไปเรื่อยอยากแวะไหนก็แวะแต่ที่ที่เราใช้เวลานานที่สุดคือ 21 forever เพราะมีถึง 6 ชั้นเดินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ สนุกมากกกกกก เริ่มหิวเลยเดินหาร้านแถวๆนั้น ก็ไปเจอกับร้านขายบะหมี่กับข้าวซึ่งเมนูแทบไม่มีผักเลยมีแต่หมูกับเนื้อแต่อร่อยดี อิ่มมากด้วย เราเดินไปตามร้านเสื้อผ้าต่างๆแต่ที่ชอบมากคืองานออกแบบของชาวฮ่องกงเอง พวกเขามีการตกแต่งร้านที่บ่งบอกถึงสไตล์ของตัวเองอย่างชัดเจนเดินเพลินมากไม่เบื่อเลย มาดูนาฬิกาอีกทีก็จะสองทุ่มแล้วเลยรีบนั่งรถไฟไปเขอกันที่เกาลูน สรุปวันนั้นเราก็กินชาบูกันจะบอกว่ากว่าจะสั่งได้ก็นาน ของก็น้อย แถมไม่ค่อยอร่อยอีก รสชาติมันเค็มๆไปซะทุกอย่างแต่เราได้ร้านเบเกอรี่ที่เปิดถึงเที่ยงคืนมาช่วยชีวิตไว้

วันที่สี่เป็นวันแห่งการช๊อปปิ้ง โชคดีนะที่เมื่อวันก่อนเดินช๊อปไปบ้างแล้วจึงทำเวลาได้ค่อนข้างน่าพอใจแต่คนอื่นนีีสิซื้อกับแทบไม่ทัน  ตอนเย็นพวกเราได้ไปดูแสงสีที่อ่าวกันซึ่งไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่แต่ตอนแรกที่เดินไปเจอค่อนข้างที่จะตะลึงเพราะเหมือนประจันหน้ากับสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่เหมือนมันได้โอบล้อมเราไปหมดแล้ว ดูเสร็จเราก็ไปช็อปปิ้งต่อ โดยเราได้ว่าย่านซิมซาจุย(มั้ง)จำไม่ได้ แน่นอนพวกเราช็อปกันกระจายมากต้องแยกกันเดินยิ่งเป็นช่วงเซลล์แล้วล่ะก็ไม่พลาด เราช็อปปิ้งกันจนเกือบไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายวิ่งกันเหนื่อยมากแต่ตื่นเต้นดี ฮ่าๆๆๆ พอได้ของก็เอามาโชว์กันซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าของใครเป็นของใคร

คืนนี้เราจบด้วยร้านอาหารแถวที่พักที่เจ้าของร้านใจดีมาก ลดราคาให้พวกเราแถมคุยสนุกซะด้วย

วันสุดท้ายเราต้องรีบเดินทางไปมาเก๊าเพื่อไปเวเนเชี่ยนแต่ฝนก็ตกอีกแล้ว ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคกับการเดินทาง ถถึงเวเนเชี่ยนเราก็ช็อปปิ้งกันต่อแต่ที่นี่เราจะได้เห็นบ่อนที่เขาเล่นการพนันกัน ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็น มันก็ดูสนุกดีนะแต่ไม่ขอเล่นดีกว่า

สุดท้ายแล้วเราก็เดินทางกลับกันมาโดนสวัสดิภาพพร้อมความทรงจำที่แสนสนุกที่ครั้งหนึ่งเราได้ไปเที่ยวกับเพื่อนถึงสิบคน เป็นทริปที่พูดมาก มากแบบไม่เกร็งใจคนฮ่องกง นินทาเขาไปเรื่อย เล่นเกมส์ทำแต้มกันแต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆ ที่ประทับคือในทุกๆวันหลังจากเที่ยวเสร็จเราจะกลับมาที่ห้องมาพูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะ จริงๆแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว อยากไปเที่ยวแบบนี้อีกบ้างจัง หวังว่าปีหน้าคงมีอีกนะ :)

99 problems

Come away with me....

ตอนนี้ใกล้จะตีสองแล้วแต่ว่ายังนอนไม่หลับสักทีเลยหยิบแผ่นซีดีของ Narah Jones มาฟัง วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างเหนือยๆ อาจจะเป็นเพราะว่ายังเป็นวันจันทร์อยู่อะไรๆก็ยังไม่เข้าที่ ช่วงนี้พยายามหาอะไรทำเพื่อจะได้ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องกับความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนเพราะไม่อยากกลับไปตกอยู่สภาพเดิมอีกแล้ว พอนึกกลับไปช่วงนั้นก็เจ็บหนักเหมือนกัน มีเพื่อนดีที่สุดเป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและอยู่ข้างเราเสมอ


แปลกดีเนอะที่เวลาเราชอบใคร เราก็มักจะทำอะไรที่เขาชอบ โดยที่หลอกตัวเองไปว่าเราก็ชอบทำ มันแปลกดี.....

กันยามีแผนจะไปเชียงใหม่สักสามวัน เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น ที่นั้นเหมือนเป็นที่พักใจจริงๆนะ ไปทุกปีจริงๆ นี่ก็ไปมาสี่ปีติดแล้วแต่ไม่เคยเบื่อเชียงใหม่เลยจริง ส่วนกลางเดือนตุลาก็จะไปลาวแต่อันนี้ยังไม่ชัสร์แต่คิดว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้

ตอนนี้ขอทุ่มเททุกอย่างให้กับงานที่รัก เพื่อนและการเดินทาง สุดท้ายก็ครอบครัว นึกถึงตัวเรามากๆ อย่ากลับไปเสียใจอีกล่ะ :)

Heart of my life

ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆอย่าง.........

เป็นที่ที่ได้เจอเพื่อนที่ยังคบอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อน
เป็นที่ที่ได้เจอพี่ ที่ยังคบอยู่จนถึงทุกวันนี้ พี่ที่มากกว่าพี่
เป็นที่ีที่ได้เจอรุ่นน้อง ที่ยังคบจนถึงทุกวันนี้ น้องที่เป็นมากกว่ากว่าน้อง
เป็นที่ที่หล่อหลอมให้เราเป็นคนแบบนี้ จากประสบการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ แม้บางเรื่องจะเป็นเรื่องร้ายๆที่ไม่อยากจะกลับไปนึกถึง แต่บางเรื่องพอกลับไปนึกถึงก็มีความสุขทุกครั้งเพราะมันเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนก็ไม่ได้และไม่เคยนึกเสียดายเลยที่ได้เข้ามาอยู่ชุมนุมนี้ ทุกวันนี้ไม่เคยเอาเรื่องร้ายมานั่งคิดเกลียดชังใครเลยแต่ต้องขอบคุณมากกว่าที่เราได้มาเจอกัน การกลับมาเจอครั้งนี้มันมีความหมายมาก สถานะของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ทุกคนเริ่มโตขึ้นเรื่องที่คุยก็เปลี่ยนไปแต่ก็สนุกทุกครั้งที่คุยกัน เคยคิดว่าหลายปีมานี้ตัวเราเองทำไมไม่เหมือนเมื่อก่อนตอนปีหนึ่งปีสอง ทำไมถึงดูปิดกั้นตัวเองไม่มองโลกง่ายๆเหมือนเดิมแต่สองวันที่ผ่านมาเราคนเดิมที่เคยเป็นค่อยๆกลับมาอีกครั้ง
คนที่หัวเราะเสียงดัง คนที่มองอะไรก็เป็นเรื่องตลก คนที่กล้าแสดงในเรื่องบ้าๆ เรามีความสุขมากนะอยากจะหยุดเวลาตรงนั้นไว้จริงๆ

หลังจากนี้ก็คงกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม กลับมาทำงานที่ชอบ กลับมาดูหนังฟังเพลงที่ชอบ กลับมาใช้ชีวิตแบบที่ชอบ
แต่ไม่รู้ว่าจะได้ใช้เวลากับคนที่เราอยากจะอยู่ด้วยหรือเปล่า.....


ขอบคุณโฟล์คซอง ตอนนี้พูดได้เต็มปากจริงๆว่าเหมือนบ้านหลังที่สอง ที่กลับมากี่ครั้งก็มีความสุขทุกครั้งจริงๆ :)

I'm lucky :)

ตอนนี้เหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง เป็นสิ่งที่หาคำตอบมาตลอดว่าจะทำยังไงให้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริง แม้ว่าตอนนี้จะยังคงมีเรื่องทุกข์ใจในบางเวลาก็ตาม ฉันเชื่อว่าเมื่อเราคิดดีทำดี เราจะมีแรงดึงดูดให้สิ่งดีๆมาหาเราแต่ในทางกลับกันถ้าเราคิดไม่ดีหรือกระทำไม่ดีเราก็จะมีแรงดึงดูดเอาสิ่งไม่ดีเข้ามาในชีวิต การที่เรามัวแต่อิจฉาริษยาคนที่ดีกว่าเรา นินทาว่าร้ายให้คนอื่นเสียหายผลสุดท้ายแล้วเจ้าสิ่งเหล่านั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเอง  คำถามคือใครกันที่เป็นทุกข์ถ้าไม่ใช่ตนเอง

ทุกวันนี้ฉันมีความสุขในการตื่นนอนไปทำงานที่ชอบ ช่วยเหลือในสิ่งที่เราสามารถช่วยได้แม้อาจจะไม่ใช่กงการอะไรของเรา พูดจาเพราะๆ ยิ้มเยอะๆ มองโลกในแง่บวก ถ้าเราเจอสิ่งที่ไม่ดีก็บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ได้ฟังเพลงเพราะๆ เล่นกีต้าร์ทุกวัน อยากกินอะไรอยากไปที่ไหนก็ไป อยากเจอใครที่เราคิดถึงก็ทำให้เจอให้ได้ จริงๆแล้วชีวิตคนเราจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าเราไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีสุดเป็นพอ


ลองหาหนังดีๆมาดูซักเรื่องซิ แล้วจะได้อะไรมากมายจากหนังเรื่องนั้น :))
ลองพูดคุยกับใครซักคนที่อยากคุณซิ แล้วคุณจะได้ประสบการณ์ชีวิตดีๆจากเขา
ลองอ่านหนังสือดีๆซักเล่มซิ แล้วคุณจะได้เรื่องราวดีๆจากตัวหนังสือเหล่านั้น

Cycle of feeling

ถ้างานจะว่างขนาดนี้ ก็เลยกะว่าจะเอาหนังสือไปอ่าน นั่งออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ๆ แต่งเพลง คือแบบว่าว่างจนรู้สึกเสียดายเวลาแต่ถึงเวลาที่ผ่านช่วงเซลล์ไปแล้วคงจะมีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันกว่านี้ ตอนนี้ทำมาสองอาทิตย์ยังไม่ได้พักเลย ไม่เหนื่อยแต่เพลียมาก ไม่รู้ว่าเพลียอะไรนอนก็ครบเจ็ดช่วงโมง งงเหมือนกัน

เมื่อวานไปทองหล่อ ร้านเดิม เมนูเดิม คนเดิมๆ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นความรู้สึกพอกลับไปก็นึกถึงเหตุการณ์เก่าๆที่เกิดที่นี่มีทั้งเรื่องเหี้ยๆแล้วก็มีทั้งเรื่องดีๆ แต่เมื่อคืนนี้ไม่ได้เจอหรือคุยกันเลยจ้าาาาา ดีแล้วล่ะต่างคนต่างอยู่อ่ะดีแล้ว อย่าไปยืดติดเลยของมันจะไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่อยู่ดี บายยย ไปนอนล่ะง่วงมากกกก บอกเลย ช่วงนี้แม่งอัพบ่อย ว่างไง กิกิ
ป.ล เพลงโดนใจหลายเพลงเลยเมื่อวาน แต่ร้องเสียงสูงไปหน่อย เพลีย

Dont forget You have a new life already

No I'm not color blind
I know the world is black and white
Try to keep an opened mind I just can't sleep on this tonight
Stop this train I want to get out and go home again
I can't take the speed it's moving in
I know I can
But honestly will someone stop this train

Cr : Stop this train - John mayer

 

น้องเอิงเอย เด็กน่ารัก หลงรักมากคนนี้

ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิงแต่ไม่สำคัญเพราะเธอร้องเพลงได้ไพเราะมาก Love black skin

การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แน่นอนมันมักจะพร้อมการปรับตัวและเป็นการปรับตัวที่ค่อนข้างที่จะหนักใจ ด้วยสภาพแวดล้อมใหม่ๆ รวมถึงสิ่งใหม่ๆที่เราจะต้องเรียนรู้ มันไม่อยากหรอกแต่รู้สึกกดดันมากกว่า ด้วยความที่ไม่ชอบตกอยู่ในสภาวะที่รู้สึกว่าตัวเองโง่ ไร้ความสามารถ มันจึงยิ่งทำให้เราไม่ค่อยเปิดใจที่จะเรียนรู้มันสักเท่าไหร่ ถามว่าชอบงานที่ได้รับผิดชอบมั้ย ตอบได้เต็มปากเลยว่าชอบ มันลงตัวในเวลาที่จะเข้าเวลาไหนก็ได้ ได้ตื่นนอนสายๆ ไม่ต้องรีบแต่งตัว ไม่เครียด ไม่ต้องอยู่หน้าคอมนานๆ มีเวลาให้ได้คิดอะไรที่มีประโยชน์ ที่สำคัญคือเราจะไม่รู้สึกเครียดเลย

จะสัญญาว่าจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด คิดดูซิว่าเราโชคดีแค่ไหนที่ได้ทำงานที่เรารัก สู้ๆ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาอยู่ดีๆก็ฝันถึงคนคนหนึ่งแล้วรู้สึกว่าคิดถึงเขามากๆ วันนี้ยังไงก็ต้องเจอให้ได้ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน มันรับรู้ได้นะว่าเราอยากเจอกัน เก็บมิตรภาพดีๆนี้ไว้นานๆ อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่รู้แต่วันนี้เรายังเป็นมิตรที่ดีต่อกันก็พอแล้ว :)

I will make every single day for happiness and miss every people who is a part of my life, try to meet all my friends to talk about our life. Listen good taste music and sing along, eat delicious food, wear wonderful outfit. In order to be happy with what I have <3

If I can put you and you together, would be great because I binding with you so bad :P

When I listen this song, I feeling down and down. The memories about you attacked me but it doesn't matter, I trust god will find someone for me so I'm not sad anymore :)

Everyday karmakamet : I love my life

No matter how my thoughts to be so rebel and how my dreams seem to be out of reach no matter when the flowers have dried in the vast and you walked away, and just left me with a painful yesterday.

Tomerrow the flowers will aways blooms, the sun will always shine thought my window. I will always remember that life has treated us, with the old mirror before me. I will always see the same belief shining through my eyes. Good things don't always just happen by themselves but we can help to make them happen. Until then, Just enjoy your "Eat, Clean, Work, Care, Etc. Cr : Evertday Karmakamet

 

ได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มาพอสมควร เมื่อมีเวลาและเพื่อนร่วมกินเราก็มุ่งหน้าไปร้านนี้ทันที ร้านนี้มีชื่อว่า Everyday Karmakamet ซ่อนตัวอยู่หลังธนาคารทหารไทยสาขาสีลมหาไม่อยาก เมื่อเราเปิดประตูสิ่งแรกที่เราสามารถสัมผัสได้คือกลิ่นของเครื่องหอมแต่ถ้าอยู่ไปนานๆเราก็จะชินกลิ่นไปเอง อาหารและเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลายแต่ที่ชอบมากคือเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนคาเฟ่ร้านอื่นๆเพราะมันมีรสชาติและความหอมเฉพาะตัว บรรยากาศร้านโดยรวมถือว่าน่ารักมาก มีโต๊ะตรงกลางสำหรับนั่งวาดรูป เขียนโปสการ์ด เดินไปทางด้านหลังจะเป็นมุมขายเครื่องหอมและของใช้ต่างๆ โดยร้านนี้จะมีคอนเซปคือ I love my life จะมีของใช้แยกเป็น 5 หมวดใหญ่ๆคือ You are what you eat, My little happy secret, Love what you do, Love me tender, Love what you love

สิ่งที่ชอบมากๆคือ เพลงที่เปิดจะเป็นเพลงในยุค 60's-70s' ชอบเป็นการส่วนตัวเพราะไม่ค่อยเห็นคาเฟ่ที่ไหนเปิดเพลงแนวนี้ แอบรู้สึกว่าร้านนี้เค้าจะตกแต่งร้านหรือไม่เจ้าของคงชอบดนตรีในยุคนั้น มุมโปสการ์ดก็น่าสนใจ ยืนเลือกไปเพลินๆ ได้มาสองใบ

โอ๊ะ!! วันนี้มีเรื่องน่ารักๆเกิดขึ้นด้วย เราได้รู้จักสาวน้อนน่ารักจากฮ่องกงที่เธออาสามาถ่ายรูปให้เรา แถมเธอยังขอถ่ายรูปกับเราซะด้วย ยังไม่พอเธอยังถ่ายรูปเราด้วยกล้องฟิล์มของเธอ มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากจริงๆ

 

P.S ตอนนี้กำลังบ้า John mayer ฟังมันสามเวลาหลังอาหาร ชอบในเมโลดี้ เนื้องเพลง อารมณ์ของเพลง ที่สำคัญพี่จอนหล่อได้ใจมากเลวได้ใจด้วย แบบนี้ซิพี่ชอบ อิอิ

I believe in you always

 

Hey guys! You know I  pray always and believe that God will choose the best thing for me, right? Today, the wonderful thing happened to me. Accually, today I'm going to apply job at H&M but they are not easy to interview right now so I walk in to XXI Forever shop to apply job. Unfortunately the position I want is full. At the time I have nothing and I don't know where to go, then I'm going to sit at front of Mango shop and thought okay I have a job here. You know I am very lucky coz I interview with VM Superviser right now, she very nice and very kind I can ask her everything that I want to know. At last I'm going to office to submit a job appication and I did't know that have the resignation before I came here for awhile so the position is emply Whoooooo I hope I will get this job :D

The HR told me  "5 minite after the call to VM Superviser, You opened the door and said I want to apply job in VM" I can't believe everything happen so fast and evertything like it was planed, I know :)

How to wear cardigan

ได้ข่าวว่า Lots hop ออกคอลเลคชั่นใหม่ เห็นว่ามีคาดิแกนน่ารักๆ อยู่ตัวนึง หลายคนอาจจะคิดว่าจะใส่อย่างไรให้ไม่ดูแก่ บางคนก็เอามาใส่แค่กันแดดหรือกันหนาว จริงๆแล้วคาดิแกนสามารถเพิ่มความพิเศษให้คุณได้ ขึ้นอยู่กับการผสมผสานของแต่ละคน  เอาล่ะ!! วันนี้เราเลยจัดมา 4 ลุคด้วยกัน

 1. Sport girl
      เสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบ เป็นลุคสบายๆ เหมาะกับสาวๆที่ต้องการความคล่องตัว เป็นสาวเท่ที่แฝงความเนียบ

2. Over all

เอี๋ยม หมวก รองเท้าผ้าใบ อันนี้เหมาะกับสาวเปรี้ยวแต่แฝงความเท่ไว้นิดๆ คาดิแกนจะชวนให้ไม่ดูลำลองจนเกินไปแต่จะเข้าไปเพิ่มความเท่ให้สาวๆดูน่าค้นหายิ่งขึ้น

3. Sweet girl
เสื้อกล้าม กระโปรงยาวสีหวาน เหมาะกับสาวหวานมากๆ แต่เป็นสาวหวานที่มีมาดนิดนึงนะ เพราะเธอจะไม่เป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจ เป็นสาวหวานที่ชื่นชอบดอกไม้ สายลม และแกร่งพอตัวเลยล่ะ

3. Tomboy

คาดิแกน กางเกงขายาว หมวก รองเท้าผ้าใบ เป็นลุคง่ายๆ ที่เน้นความเท่แบบญี่ปุ่น โดยใส่คาดิแกนแบบติดกระดุมหมดทุกเม็ด กางเกงที่ใส่ควรเป็นกางเกงทรงหลวม แค่นี้ก็เท่แล้วล่ะ