เมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาศดูคอนเสริตวง Earth wind and fire จริงๆแล้วไม่ได้รู้จักหรือชื่นชอบวงนี้ขนาดที่ต้องลงทุนเสียเงิน 2000 บาทเพื่อไปดู แต่มันมีเหตุจูงใจ ทั้งความบังเอิญและโชคชะตาเหมือนมันมีเหตุให้ได้รู้ว่าวงนี้จะมาเล่นที่เมืองไทยบวกกับจำได้ลางๆว่า เขาเคยโพสต์เพลงนี้ลง facebook และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด
เรารวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อที่จะทักและเอาคอนเสริตนี้มาเป็นข้ออ้างในการสนทนา เมื่อพูดคุยกันเสร็จเราก็ได้รู้ว่าเขาจะไปดูคอนเสริต จากนั้นเราก็หาคนที่จะไปดูเป็นเพื่อน สุดท้ายก็ได้รุ่นพี่คนหนึ่ง เมื่อได้คนไปดูด้วยแล้วสิ่งต่อไปของเราก็คือหาเพลงวงนี้มาฟัง ยิ่งฟังยิ่งหลงไหล ยิ่งชอบ ยิ่งฟังทุกวัน ทุกเวลา จนรู้สึกว่าเริ่มรักวงนี้ซะแล้ว
เมื่อถึงคอนเสริตวันจริง จิตใจ สมาธิไม่ได้อยู่กับวงหรือว่าเพลงเลย ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะจบ เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าเราจะได้เจอกันไง......
วินาทีแรกที่เราหันไปเจอเธอ เหมือนภาพเหตุการณ์มันหยุดนิ่ง เหมือนมีแค่ฉันและเธอ เธอใส่ sweater สีเขียวเข้มคอวีกับกางเกง Chino สีกากี เธอดูดีมาก และนั้นคือครั้งแรกที่เราได้เจอกันอย่างเป็นทางการ
After the love has gone คือเพลงที่ฟังทุกวันเป็นเวลาปีกว่าๆแล้ว ไม่เคยเบื่อเคย เหมือนทุกครั้งที่ฟังมันจะมีความรู้สึกตอนที่เราได้เพิ่งทำความรู้จัก ช่วงที่คุยกันทุกวัน ช่วงที่เรามีแต่สิ่งดีๆให้กัน เพลงมันไม่ถึงกับเศร้านะ แต่มันก็เศร้าจนเกือบร้องไห้ในบางที ขอบคุณช่วงเวลานั้นที่ทำให้ได้รู้จักเพลงนี้และเราก็จะฟังเพลงนี้ต่อไปทุกวันเพื่อที่จะนึกถึงช่วงเวลาดีๆช่วงหนึ่ง :)
อีกหนึ่งวันที่เรามีความสุขมาก เธอจองบัตรให้ นั่งตรงที่เธอเล่นพอดี ได้ดูเธอเล่น ได้พูดคุยกับเธออีกครั้ง เป็นอีกหนึ่งวันที่อยากขอบคุณเธอ :)
No comments:
Post a Comment